กลลวงในโลกอินเทอเน็ต

คุณสามารถค้นหาความจริง



ในสิ่งที่คุณไม่มั่นใจและกลัว



ได้ในกลลวงในโลกอินเทอเน็ต



วันอังคารที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2553

การหลอกลวงทางอินเทอเน็ต

ฉันเป็นคนหนึ่งที่ชอบเล่นอินเทอเน็ตและคิดว่าสามารถสำผัสในสิ่งที่เรามองไม่เห็นได้จากทั่วโลกแต่สามารถมองเห็นได้ผ่านจอคอมพิวเตอร์แต่ในสิ่งที่สวยงามและผู้คนที่ได้แวะเวียนมาทักทายกันจากทั่วมุมโลกมันก็แฝงด้วยอันตราย
มากมายและอาจจะมีหลายๆๆคนที่ได้เจอกับตัวและฟังคนอื่นเล่ามาหรือได้รับฟอร์เวิดเมลแต่ทั้งหมด
เราอาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่ในสิ่งที่ฉันได้สัมผัสหลังจากค้นคว้าติดตามติดต่อจากหน่วยงานต่างๆกลับได้รับการยืนยันจากหลากหลายบุคคลที่ท่านทั้งหลายมีคุณวุฒและวัยวุฒฉะนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอีกต่อไปในโลกของอินเทอเน็ตอิสระที่แฝงด้วยอันตรายที่คุณไม่มีวันลืมมันลง
เริ่มด้วยเรื่องแรกที่จะมาเล่าสู่กันฟัง

น้องคนนี้ชื่อ รวี
ได้รู้จักเพื่อนผ่านจากการเล่นแท็กที่ทุกคนนิยมเล่นกัน
อยู่มาวันหนึ่งได้รู้จักผู้ชายคนหนึ่ง  เป็นคนสัญชาติอังกฤษ
ดูดีมีชาติตระกูล และน้องคนนี้นิสัยส่วนตัวน้องเค้าดีกับทุกคน
และได้พูดคุยกันได้ประมาณ2-3 เดือนผู้คนนี้ก็บอกกับน้องเค้าว่าจะส่งของมาให้นะ
น้องเค้าดีใจที่มีคนใจดีส่งของมาให้...แต่ผู้ชายคนนั้นบอกว่าน้องเค้าจะต้องจ่ายเงิน
ปลายทางเองนะน้องเค้าก้อโอเค ยินดีรับของจากเค้า โดยที่ไม่คิดอะไร
หลังจากนั้นผู้ชายคนนั้นก้อเมลส่งแบบฟรอมใบเสร็จส่งของมาให้
น้องเค้าอ่านแล้วตกใจ...เพราะว่าในใบเสร็จนั้น มันระบุของมีค่าอย่างชัดเจน
แล้วน้องเค้าก้อโทรไปถามว่าส่งอะไรมาให้
ผู้ชายคนนั้นก็ไม่ตอบ ได้แต่บอกว่า ได้รับของแล้วจะรู้เอง
แต่ต้องจ่ายค่าขนส่งก่อนเค้าถึงจะมาส่งของให้
เป็นจำนวนเงิน47250 บาท น้องเค้าถึงกับตกใจว่าทำไมค่าขนส่งแพงจัง
เค้าบอกว่าบริษัทขนส่งนี้เป็นของคนไทยมีสาขาอยู่ที่ดอนเมือง
และสามารถไปรับของเองได้...แต่จะมีเอเจนชี่ติดต่อกลับไปหาเอง
เพราะติดต่อให้เราไปรับของ.....แต่เราจะต้องโอนเงินให้ค่าขนส่งก่อน
ไม่งั้นเค้าไม่ส่งของให้ ผู้ชายคนนั้นบอก
ต่อมาอีก 1 วัน ได้มีโทรศัพจากผู้หญิงไทยคนหนึ่งชื่อนัทมน บอกว่าเค้าเป็นเอเจนชี่
จะเอาของมาส่งโอนเงินแล้วจะได้รับของภายในสามชั่วโมง
แต่น้องเค้ามีเงินไม่พอจ่าย 47,250 บาทผู้หญิงคนนั้นจึงบอกไห้โอนมา 25,000 บาทก่อนที่เหลือจะไปเก็บที่บ้านอีก 22,250 บาท
หลังจากที่โอนเงิน 1 วัน ก้ได้มีผู้หญิงอีกคนหนึ่งชื่อกิฟ
บอกว่าจะเอาของมาส่งไห้แต่ติดปัญหาทีของไม่ผ่านศุลกากร
ต้องเสียค่าปรับเพิ่มอีก5000บาท ต้องโอนเดี๋ยวนี้นะพี่ไม่งั้นต้องรอนาน
น้องเค้าเลยโอนไปเพิ่มอีก 5000 บาท และน้องเค้าจึงตามไปถึงสนามบินดอนเมือง
เพื่อรับของแต่สุดท้ายแล้วโทรเท่าไหร่ก้อโทรไม่ติดจึงไปติดต่อที่กรมศุลกากรดอนเมืองปรากฏว่า
ไม่มีสินค้าหรือการจับสิ้นค้าใดๆๆทั้งสิ้น
สุดท้ายทางกรมศุลกากรจึงให้น้องเค้าไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าทีตำรวจ
เพื่อตำเนินคดีต่อผู้ที่เราโอนเงินเข้าบัญชีเค้าและหลังจากที่น้องได้ไปแจ้งความ
จึงได้พบกับความจริงที่เราไม่คิดมาก่อนว่าจะมีกลุ่มมิจฉาชีพแฝงอยู่ไกล้ตัวเรา
โดยที่เราเองไม่รู้ตัว

4 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆๆค่ะ

    ตอบลบ
  2. มันเป็นเรื่องที่ต้องใช้ดุลพินิจ พ่อผมเคยสอนไว้ว่า

    มีชายคนนึง บอกว่าเจอทองตกอยู่ ชายอีกคนนึงเดินมาเห็นก็ร้องโอ้วๆๆๆ ทองจริงๆ ชายคนนั้นก็บอกว่า เอางี้พี่ ผมเดือดร้อนเงิน ผมขอแค่ 500 บาท ผมคงไม่เอาไปแลกเงินเสียเวลา พี่จัดเองละกัน โดยใจที่คิดว่ามันคือทอง ชายคนนั้นจ่ายให้ไปเลย 1000 นึง เพราะคิดว่าไงก็คุ้ม แต่สุดท้ายพอชายคนนั้นหายลับตาไป พอมาเปิดดูดีๆ มันก็แค่ก้อนดินที่ทาทองเอาไว้ .....


    เมื่อความละโมบ ในใจถูกเปิดผนึก ก็ไม่ยากนักที่จะถูกจูงใจ ด้วยสิ่งที่คิดว่าใช่ ขาดความรอบคอบ ศึกษาข้อมูล สุดท้าย .......

    น่าสงสารครับ ก็ขอให้ หาให้เจอนะครับ

    ตอบลบ
  3. หึหึหึ ............. น่าสงสารจัง
    มันก้อจริงที่ว่าโลกอินเทอร์เน็ตมีทั้งคนดีและเลว
    เป็นแบบนี้มันก้อทำให้เราไม่ไว้ใจใครเหมือนกันนะ
    แต่มันก้อดีกว่ามาเสียใจทีหลัง
    ยังไงก็ขอให้เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องนึงที่จะเป็นข้อควรระวังกับทุกๆคนในโลกอินเทอร์เน็ต
    คนที่มันจะเอาของๆคนอื่นนี่มันช่างคิด สรรหา วิธีการต่างๆนาๆมาได้เสมอ
    อ่านไว้ เพื่อ update ตัวเอง

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณค่ะที่เข้ามาติชม
    แต่แค่การติชมไม่พอหรอกค่ะ
    ช่วยบอกต่อนิดหนึ่งยังมีคนอีกจำนวนมาก
    ยังเข้าไม่ถึงบทความนี้
    ขอบคุณค่ะ....ปล
    คอยติดตามด้วยนะค่ะสรุปว่าเรื่องนี้จะจบลงยังไง
    ขอบคุณมากค่ะ
    จากผุ้เขียน

    ตอบลบ